รวมข้อมูลการไปงานศพที่ควรรู้ ตั้งแต่การแต่งกายไปจนถึงมารยาท

การไปร่วมงานศพ ถือเป็นการแสดงความเคารพและไว้อาลัยต่อผู้วายชนม์ อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่จะมอบกำลังใจและความห่วงใยแก่ครอบครัวที่สูญเสียในยามต้องเผชิญกับการจากลา ด้วยเหตุที่สังคมไทยให้ความสำคัญกับธรรมเนียมและมารยาทในการไว้อาลัยเป็นอย่างมาก ดังนั้นการเรียนรู้และเข้าใจถึงแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่จะไปร่วมแสดงความอาลัยในงานศพแบบไทย

การเตรียมตัวก่อนไปงานศพ

การเตรียมตัวที่เหมาะสมก่อนไปร่วมงานศพ ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อบุคคลอันเป็นที่รักที่จากไป อีกทั้งยังเป็นการให้เกียรติครอบครัวผู้สูญเสียในช่วงเวลาสำคัญนี้

การแต่งกายไปงานศพ

เครื่องแต่งกายถือเป็นสิ่งแรกที่สะท้อนถึงความเคารพต่องานและผู้วายชนม์ โดยควรเลือกชุดที่สุภาพเรียบร้อย นิยมใช้โทนสีดำ ขาว หรือเทา เพื่อแสดงถึงความไว้อาลัยและความสำรวม

สำหรับผู้หญิง

• เลือกกระโปรงคลุมเข่าหรือกางเกงขายาวทรงสุภาพ
• สวมเสื้อแบบหลวมสบาย ไม่รัดรูป มีทั้งแขนยาวหรือแขนสั้น โดยระวังไม่ให้คอเสื้อลึกเกินไป
• งดเครื่องประดับที่ดูโดดเด่นหรือมีขนาดใหญ่เกินงาม
• เลือกรองเท้าคัตชูหรือรองเท้าหุ้มส้นในโทนสีเรียบเข้ากับชุด

สำหรับผู้ชาย

• สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวหรือแขนสั้นสีสุภาพ
• เลือกกางเกงขายาวทรงสุภาพ โดยเฉพาะสีดำหรือสีเข้ม
• สวมสูทหรือเสื้อนอกเพิ่มเติมเพื่อความสุภาพ
• ใส่รองเท้าหนังหรือรองเท้าผ้าใบสีสุภาพ งดรองเท้าแตะหรือรองเท้ากีฬา

สิ่งที่ควรนำไปร่วมงาน

• พวงหรีด

  ในการแสดงความอาลัย การส่งพวงหรีดควรทำในวันแรกของงานหรือจัดส่งล่วงหน้า ทั้งนี้ ปัจจุบันมีทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เช่น พวงหรีดดิจิทัล หรือการร่วมบริจาคเพื่อการกุศล ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณการใช้ทรัพยากรแล้ว ยังสร้างประโยชน์แก่สังคมในวงกว้าง

• ซองช่วยงานศพ

  การมอบซองช่วยงานเป็นธรรมเนียมที่แสดงถึงน้ำใจและการแบ่งเบาภาระของครอบครัวผู้วายชนม์ โดยควรใช้ซองสีขาวและเขียนชื่อ-นามสกุลผู้มอบให้ชัดเจน ส่วนจำนวนเงินนั้น ให้พิจารณาตามความเหมาะสมและกำลังของแต่ละบุคคล

การปฏิบัติตัวในงานศพ

เมื่อเดินทางมาถึงงาน สิ่งแรกที่ควรทำคือการกราบไหว้หรือแสดงความเคารพต่อภาพถ่ายผู้วายชนม์ จากนั้นจึงเข้าไปแสดงความเสียใจกับครอบครัว โดยใช้วาจาสุภาพ น้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมแสดงความเห็นใจอย่างจริงใจ เช่น "ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ/ครับ" หรือ "ขอให้คุณ...ไปสู่สุคติค่ะ/ครับ"

ขั้นตอนการบูชาพระรัตนตรัยและเคารพศพ

1. การบูชาพระรัตนตรัย

• นำธูป 3 ดอกมาจุด พร้อมถือไว้ระหว่างมือที่พนมในระดับอก
• น้อมใจกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัยอย่างตั้งใจ
• นำธูปไปปักในกระถางที่จัดเตรียมไว้
• ประนมมือกราบลง 3 ครั้งแบบเบญจางคประดิษฐ์

2. การเคารพศพ

• นำธูป 1 ดอกมาจุด พร้อมถือไว้ระหว่างมือที่พนม
• น้อมใจกล่าวคำไว้อาลัยหรือขอขมาในใจ
• นำธูปไปปักในกระถางที่จัดไว้สำหรับเคารพศพ
• ประนมมือกราบเคารพ 1 ครั้งแบบไม่แบมือ

การร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม

พิธีสวดพระอภิธรรมโดยทั่วไปมักจัดในช่วงเวลา 18:00-20:00 น. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละวัด ผู้ร่วมงานควรมาถึงก่อนเวลาสวดประมาณ 15-30 นาที เพื่อแสดงความเคารพและหาที่นั่งให้เรียบร้อย ระหว่างพิธีสวด ให้นั่งฟังด้วยความสำรวม ประนมมือ ระวังไม่เหยียดขาชี้ไปทางศพ และสามารถร่วมทำบุญถวายจตุปัจจัยไทยธรรมตามกำลังศรัทธา

มารยาทและการวางตัวในงานศพ

เพื่อรักษาบรรยากาศที่สงบและแสดงความเคารพต่องานพิธี ผู้ร่วมงานควรปฏิบัติตนดังนี้

การใช้เสียงและการสนทนา

• พูดคุยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เบา ๆ และสนทนาเฉพาะเรื่องที่จำเป็น
• งดการหยอกล้อ หัวเราะ หรือพูดเรื่องที่อาจกระทบความรู้สึกผู้อื่น

การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

• ปิดเสียงหรือตั้งระบบสั่นสำหรับโทรศัพท์ หากจำเป็นต้องรับสาย ให้เดินออกไปด้านนอก
• หากต้องการถ่ายภาพ ให้ขออนุญาตเจ้าภาพก่อน และถ่ายอย่างสำรวม ไม่ใช้แฟลชในช่วงพิธีกรรม

มารยาทการรับประทานอาหารในงานศพ

อาหารที่จัดเตรียมในงานศพสะท้อนถึงน้ำใจของเจ้าภาพและเป็นการตอบแทนผู้มาร่วมไว้อาลัย การปฏิบัติตนควรคำนึงถึงความเหมาะสมดังนี้

การรับประทานอาหาร

• หากมีการจัดอาหารเลี้ยง ควรต่อแถวรับตามลำดับและรับในปริมาณที่เหมาะสม
• นั่งรับประทานในบริเวณที่จัดไว้ให้ ใช้ช้อนส้อมอย่างสุภาพ ไม่ส่งเสียงดัง
• กรณีเป็นอาหารกล่องหรือสแน็กบ็อกซ์ สามารถเก็บไปรับประทานที่บ้านได้

การวางตัวระหว่างรับประทาน

• พูดคุยเสียงเบา สำรวม หลีกเลี่ยงการหัวเราะหรือวิจารณ์รสชาติอาหาร
• รับของชำร่วยหรืออาหารกลับเฉพาะที่เจ้าภาพจัดเตรียมไว้ให้ และกล่าวขอบคุณด้วยความสุภาพ

การปฏิบัติตัวหลังกลับจากงานศพ

เมื่อกลับจากงานศพ ตามความเชื่อในวัฒนธรรมไทย เราควรชำระล้างสิ่งอัปมงคลเพื่อดูแลสุขภาพกายและใจ ซึ่งมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

1. การชำระล้างร่างกาย

พอกลับถึงบ้าน สิ่งแรกที่ควรทำคือชำระล้างร่างกาย เริ่มจากล้างมือและเท้าให้สะอาด เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นและสิ่งของในงานมากที่สุด หลังจากนั้น ให้อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ถ้ามีน้ำมนต์ก็สามารถใช้ประพรมที่ศีรษะและร่างกายเพื่อความเป็นสิริมงคล วิธีนี้จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นและปลอดโปร่งขึ้น

2. การปฏิบัติตามความเชื่อ

เมื่อชำระร่างกายเสร็จแล้ว หลายครอบครัวมักปฏิบัติตามความเชื่อเพื่อเสริมสิริมงคล อาจจุดธูปสวดมนต์หรือทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้วายชนม์ สำหรับครอบครัวที่มีความเชื่อแบบจีน อาจใช้กิ่งทับทิมจุ่มน้ำสะอาดหรือใช้ใบเงินใบทองประพรมตัว ซึ่งจะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีไม่ให้ตามเรามาได้

3. การดูแลบรรยากาศภายในบ้าน

บรรยากาศในบ้านควรรักษาให้รื่นรมย์และเป็นมงคล โดยงดพูดถึงเรื่องความตายหรืองานศพ เพราะอาจกระทบความรู้สึกของคนในบ้าน ส่วนของที่ได้จากงานศพ ควรแยกเก็บในที่เหมาะสม ไม่นำมาไว้ในห้องนอน และอาจเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทสักพัก เพื่อให้บ้านรู้สึกสดชื่น

4. การดูแลสุขภาพจิตใจ

การไปงานศพอาจทำให้จิตใจหม่นหมอง โดยเฉพาะถ้าเป็นงานของคนใกล้ชิดหรือญาติสนิท จึงควรให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนและทำใจให้สงบ อาจผ่อนคลายด้วยการฟังเพลงเบา ๆ นั่งสมาธิ หรือพูดคุยกับครอบครัว และถ้ารู้สึกไม่สบายใจมาก ก็ควรปรึกษาผู้ใหญ่หรือคนที่ไว้ใจเพื่อขอกำลังใจ

จากแนวทางการเตรียมตัวไปงานศพที่กล่าวมา จะเห็นว่าการจัดงานนั้นมีรายละเอียดมากมายที่ต้องใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรม การจัดเตรียมอาหาร หรือแม้แต่ของชำร่วยงานศพที่เหมาะสม ซึ่งในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้ Farawell Funeral Services พร้อมช่วยให้ท่านได้มีโอกาสอำลาคนที่รักในครั้งสุดท้ายอย่างดีที่สุด

ด้วยแพ็กเกจการจัดงานศพที่ครบวงจร เราพร้อมดูแลและประสานงานทุกขั้นตอนแทนท่าน ภายใต้นโยบายที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้าและสุขภาพจิตของครอบครัวที่อยู่เบื้องหลังการจากลา ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและความไว้วางใจจากบุคคลสำคัญหลากหลายท่าน เราพร้อมช่วยให้ท่านส่งคนที่รักเป็นครั้งสุดท้ายได้อย่างสมศักดิ์ศรีและสมบูรณ์แบบที่สุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 097-496-9595 ยินดีให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง