องค์ประกอบและตัวอย่างการเขียนประวัติผู้เสียชีวิตในงานฌาปนกิจ

พิธีฌาปนกิจ พิธีสำคัญของการจัดงานศพ เพราะเป็นพิธีที่ญาติมิตรจะได้ร่ำลาผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากจะมีพิธีการทางศาสนาแล้ว อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการอ่านประวัติของผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย หากคุณได้รับหน้าที่สำคัญในการเขียนประวัติผู้เสียชีวิตในงานฌาปนกิจ จะต้องเริ่มต้นอย่างไร มีวิธีการเขียนอย่างไรบ้าง เพื่อให้การร้อยเรียงประวัติของผู้เสียชีวิตออกมาได้อย่างราบรื่นและครบถ้วน มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้ที่นี่

ความสำคัญของการอ่านประวัติผู้เสียชีวิตในงานฌาปนกิจ

การอ่านประวัติผู้เสียชีวิตในงานฌาปนกิจ เป็นพิธีการที่เราสามารถพบเห็นได้ในงานฌาปนกิจทั่วไป จะเกิดขึ้นหลังจากนำร่างผู้วายชนม์เวียนรอบเมรุครบ 3 รอบและนำขึ้นตั้งบนเมรุเรียบร้อย มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการด้วยกัน ได้แก่

• แนะนำประวัติผู้เสียชีวิตให้ผู้ร่วมงานทราบว่าชื่อนามสกุลอะไร เกิดวันที่เท่าไร เสียชีวิตตอนอายุเท่าไร รวมถึงอาจมีการกล่าวถึงประวัติครอบครัวคร่าว ๆ ด้วย
• รำลึกถึงคุณความดีของผู้วายชนม์ที่เคยทำเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ทั้งความดีต่อครอบครัว ญาติมิตร และต่อสังคม
• แสดงความรักและเคารพ ตลอดจนแสดงความอาลัยต่อการจากไปของผู้เสียชีวิต

โดยทั่วไป ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้อ่านประวัติของผู้เสียชีวิตนั้น มักเป็นบุตรหลานหรือบุคคลในครอบครัว ขั้นตอนการอ่านประวัติ จะเริ่มจากการแนะนำตัวผู้อ่านก่อนว่าเป็นใคร มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้วายชนม์ แล้วจึงอ่านประวัติของผู้จากไป และจบด้วยการเชิญให้แขกลุกขึ้นยืนไว้อาลัยประมาณ 1 นาที ก่อนจะเข้าสู่พิธีทอดผ้าบังสุกุล แต่หากรู้สึกเศร้าเสียใจจนไม่สามารถทำหน้าที่ต่อได้จนจบ พิธีกรจะเป็นผู้อ่านประวัติแทน เพื่อให้พิธีการดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น

การเขียนประวัติผู้เสียชีวิตในงานฌาปนกิจต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง ?

จากความสำคัญของการอ่านประวัติผู้เสียชีวิตที่กล่าวถึงไปในข้างต้น แสดงให้เห็นว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่ครอบครัวจะได้แจ้งประวัติความเป็นมาและแสดงความรัก ความอาลัยต่อบุคคลอันเป็นที่รักอย่างเป็นทางการร่วมกัน ดังนั้น เพื่อให้การเขียนประวัติผู้เสียชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่นและครอบคลุมทุกใจความสำคัญในทุกช่วงชีวิต อย่าลืมเช็กให้แน่ใจว่าประวัติผู้เสียชีวิตที่เขียนขึ้น มีองค์ประกอบครบถ้วน ดังนี้

• ประวัติส่วนตัวและพื้นเพครอบครัว ได้แก่ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ และภูมิลำเนา
• อุปนิสัยส่วนตัว เช่น เป็นคนร่าเริงแจ่มใส เป็นที่รักของครอบครัวและญาติมิตร เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมนึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่เคยใช้ร่วมกัน
• การศึกษา โดยส่วนใหญ่นิยมกล่าวถึงเฉพาะการศึกษาระดับสูงสุดเท่านั้น
• หน้าที่การงาน ระบุเป็นตำแหน่งและชื่อองค์กรที่สังกัดอยู่
• การทำประโยชน์ต่อสังคม ชุมชน หรือคนรอบข้าง
• วาระสุดท้าย เช่น ผู้เสียชีวิตจากไปอย่างสงบด้วยโรคอะไร โดยไม่ต้องลงรายละเอียดลึก เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนจิตใจคนใกล้ชิด

เทคนิคการเขียนประวัติผู้เสียชีวิตที่ควรรู้

นอกเหนือจากองค์ประกอบหลักที่ควรระบุให้ครบแล้ว เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นการเขียนเพื่อแสดงความรักและอาลัย จึงย่อมต้องสอดแทรกความรู้สึกของผู้เขียนหรือครอบครัวลงไปด้วย เราจึงมีเทคนิคการเขียนมาแนะนำเพิ่มเติม 3 ข้อด้วยกัน

• เช็กความละเอียดและถูกต้องของข้อมูล โดยเฉพาะชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด อายุ และตำแหน่งหน้าที่การงาน
• เลือกใช้ภาษาระดับทางการ รวมทั้งถ้อยคำที่แสดงถึงความเคารพและให้เกียรติ ฟังแล้วรื่นหู
• สามารถสอดแทรกความรู้สึกที่มีต่อผู้เสียชีวิตลงไปในการเขียนได้ เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความซาบซึ้งตามไปด้วย

ตัวอย่างการเขียนประวัติผู้เสียชีวิตในงานฌาปนกิจ

เพื่อเป็นแนวทางในการเขียน เราจึงขอยกตัวอย่างการเขียนประวัติผู้เสียชีวิตในงานฌาปนกิจให้เห็นภาพมากขึ้น ดังนี้

กราบเรียน (ชื่อ นามสกุลของประธานในพิธี) และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ก่อนจะเข้าสู่พิธีฌาปนกิจศพ (ชื่อ นามสกุลของผู้เสียชีวิต) เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและรำลึกถึงเป็นครั้งสุดท้าย ดิฉัน/กระผม (ชื่อ นามสกุลของผู้อ่านประวัติ) มีความเกี่ยวข้องเป็น (ความเกี่ยวข้องของผู้อ่านและผู้เสียชีวิต) ขอนำประวัติของผู้เสียชีวิตมาเรียนให้ทุกท่านทราบโดยสังเขป ดังนี้

(ชื่อ นามสกุลของผู้เสียชีวิต) เกิดวันที่ (วัน เดือน ปีเกิดของผู้เสียชีวิต) ที่จังหวัด (ภูมิลำเนา) เป็นบุตรของ (ชื่อบิดา-มารดา) สำเร็จการศึกษาจาก (ชื่อสถานศึกษาและสาขาวิชา) สมรสกับ (ชื่อคู่สมรส) มีบุตร (จำนวนและชื่อบุตร)

(ชื่อผู้เสียชีวิต) เป็นคนร่าเริงแจ่มใส ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ จึงเป็นที่รักของคนรอบข้างทุกคน ด้านหน้าที่การงาน ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง (ตำแหน่งงาน) ที่ (ชื่อหน่วยงาน) โดยขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ ก็ได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาเสมอมา

(ชื่อผู้เสียชีวิต) ล้มป่วยลงด้วยโรค (ชื่อโรค) และจากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ (วัน เดือน ปีที่เสียชีวิต) ทิ้งไว้ซึ่งความอาลัยรักของครอบครัว ญาติมิตร และเพื่อนฝูง ในวาระสุดท้ายนี้ ขอเรียนเชิญทุกท่านอธิษฐานจิตเพื่ออุทิศส่วนกุศล และส่งดวงวิญญาณของ (ชื่อผู้เสียชีวิต) ให้ไปสู่สุคติ และยืนไว้อาลัยด้วยความพร้อมเพรียงกันประมาณ 1 นาที ขอเรียนเชิญค่ะ/ครับ

และนี่ก็คือเกร็ดข้อมูลในการเขียนประวัติผู้เสียชีวิตที่เรารวบรวมมาแนะนำกัน แล้วหากคุณต้องการให้การจัดพิธีศพดำเนินไปอย่างราบรื่นและสมบูรณ์แบบที่สุด ที่ Farawell Funeral Services เรามีบริการรับจัดงานศพอย่างครอบคลุม ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญทุกขั้นตอน รวมถึงรับทำของที่ระลึกงานฌาปนกิจ หรือของชำร่วยงานศพเพื่อแทนคำขอบคุณแก่ผู้ที่มาร่วมงาน ยินดีให้คำปรึกษาและช่วยประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 097-496-9595