7 ขั้นตอนการจัดงานศพ ส่งคนที่คุณรักครั้งสุดท้าย

ช่วงเวลาแห่งการจากลา ล้วนแต่ไม่มีใครอยากให้มาถึง โดยเฉพาะเมื่อต้องบอกลาคนที่รักไปตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก หรือญาติมิตรคนอื่น ๆ แต่เมื่อช่วงเวลานั้นมาถึง สิ่งสุดท้ายที่จะทำให้พวกเขาได้ คือการจัดงานอำลาครั้งสุดท้ายให้สมบูรณ์แบบที่สุด วันนี้ เราจึงสรุปขั้นตอนการจัดงานศพและขั้นตอนพิธีฌาปนกิจศพอย่างครบถ้วนมาบอกกัน เพื่อเป็นวิทยาทานให้สามารถรับมือได้หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั่นเอง

1. แจ้งตายเพื่อรับใบมรณบัตร

ก่อนจะเริ่มต้นขั้นตอนการจัดงานศพ สิ่งแรกที่คุณต้องทำหากมีคนใกล้ตัวเสียชีวิต คือการไปแจ้งตายเพื่อให้เจ้าหน้าที่ออกใบมรณบัตรให้ หากเสียชีวิตที่โรงพยาบาล คุณสามารถนำหนังสือรับรองการเสียชีวิตและทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิตไปแจ้งตายที่สำนักงานทะเบียนท้องถิ่นได้เลย แต่หากเป็นการเสียชีวิตที่บ้าน จะต้องดำเนินการแจ้งความเพื่อให้ตำรวจออกหนังสือรับแจ้งตายให้ จากนั้นจึงค่อยไปแจ้งตายที่สำนักงานทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่จะปั๊มตราว่าเสียชีวิตเมื่อไหร่ลงในเล่มทะเบียนบ้านและออกใบมรณบัตรให้ เพื่อเป็นหลักฐานการเสียชีวิตทางกฎหมาย

2. ติดต่อวัดและเคลื่อนย้ายศพไปที่วัด

หลังจากแจ้งตายและได้รับใบมรณบัตรมาแล้ว ลำดับต่อไปก็ถึงเวลาเริ่มต้นขั้นตอนการจัดงานศพที่แท้จริง ซึ่งในอดีต คนไทยนิยมนำร่างผู้เสียชีวิตไว้ที่บ้านเพื่อสวดบำเพ็ญกุศล เมื่อครบกำหนดจึงค่อยเคลื่อนย้ายไปทำพิธีฌาปนกิจที่วัด แต่ในปัจจุบัน คนส่วนมากนิยมจัดงานที่วัดกันมากขึ้น เพื่อความสะดวกของแขก เจ้าภาพ และพระภิกษุที่จะมาทำพิธีสวดอภิธรรมด้วย ดังนั้น เมื่อมีคนเสียชีวิต จะต้องเร่งติดต่อวัดเพื่อจองศาลาและเมรุ รวมทั้งจัดสถานที่เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายศพไปทำพิธี โดยต้องแจ้งกำหนดการให้ชัดว่าต้องการบำเพ็ญกุศลกี่วัน และทำพิธีฌาปนกิจเมื่อไหร่ เพื่อให้ทางวัดเตรียมสถานที่ให้พร้อม

3. แจ้งกำหนดการให้ญาติมิตรของผู้เสียชีวิตทราบ

อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่หลายคนมักมองข้าม เพราะมัวแต่วุ่นวายกับพิธีการต่าง ๆ ก็คือการแจ้งกำหนดการให้ญาติมิตรของผู้เสียชีวิตทราบ โดยอาจเป็นการแจ้งกันแบบปากต่อปาก แจ้งผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook หรือ LINE และการแจ้งผ่านโทรศัพท์ เพื่อให้พวกเขาได้มาร่ำลาและไว้อาลัยให้แก่ผู้ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้าย

4. จัดพิธีรดน้ำศพ

พิธีรดน้ำศพ ถือเป็นขั้นตอนการจัดงานศพที่สำคัญขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งในสมัยโบราณ เชื่อกันว่าเป็นการชำระล้างร่างกายผู้เสียชีวิตให้สะอาด เพื่อให้เดินทางไปสู่ภพภูมิที่ดี แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ในพิธีจึงเหลือเพียงรดน้ำลงที่มือของผู้เสียชีวิตเท่านั้น นอกจากนี้ หลายคนยังใช้พิธีนี้เป็นโอกาสในการกล่าวคำร่ำลาและอโหสิกรรมให้กันเป็นครั้งสุดท้ายอีกด้วย

5. เริ่มพิธีบำเพ็ญกุศลและสวดอภิธรรม

หลังจากรดน้ำศพเสร็จเรียบร้อย คณะเจ้าภาพก็จะทำการบรรจุร่างผู้วายชนม์ใส่หีบศพ แล้วนำไปจัดวางในจุดที่เตรียมไว้ โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้คือรูปภาพของผู้เสียชีวิต กระถางธูปพร้อมธูปทำพิธี (ธูปใหญ่) และธูปปกติสำหรับแขกที่มาเคารพศพ ตะเกียง และสายสิญจน์ นอกจากนี้ยังมีการจัดดอกไม้เพื่อเพิ่มความสวยงามหน้าหีบศพเพิ่มเติมด้วย จากนั้นจึงเป็นพิธีบำเพ็ญกุศลและสวดอภิธรรม ซึ่งจะเริ่มขึ้นในช่วงเย็น นิยมสวด 3 คืน, 5 คืน และ 7 คืน ตามความสะดวกของเจ้าภาพ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออุทิศบุญกุศลแก่ผู้เสียชีวิตนั่นเอง

6. จัดพิธีฌาปนกิจศพ

เมื่อสวดอภิธรรมครบกำหนด ก็เป็นขั้นตอนพิธีฌาปนกิจศพ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเผาศพ โดยขั้นตอนพิธีฌาปนกิจจะเริ่มจากการเคลื่อนหีบศพมาไว้บนรถเข็น มีพระภิกษุนำขบวน ตามด้วยลูก หลาน หรือญาติสนิทที่ทำหน้าที่ถือกระถางธูปและรูปถ่ายของผู้เสียชีวิต แล้วจึงเป็นรถบรรจุหีบศพ มีญาติ ๆ คนอื่นเดินตามหลัง ขบวนจะเดินวนรอบเมรุไปทางซ้ายทั้งหมด 3 รอบ แล้วจึงเคลื่อนหีบศพขึ้นไปตั้งบนเมรุ
 

หลังจากตั้งหีบศพบนเมรุเรียบร้อย พิธีกรหรือลูกหลานของผู้เสียชีวิตจะทำการกล่าวคำไว้อาลัย ซึ่งโดยมากจะกล่าวถึงชีวประวัติ คุณงามความดี และความรู้สึกที่มีต่อผู้เสียชีวิตเพื่อเป็นการไว้อาลัย แล้วจึงเชิญแขกผู้ใหญ่ขึ้นทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นจะเป็นการเชิญแขกท่านอื่น ๆ ขึ้นมาวางดอกไม้จันทน์ที่หน้าหีบศพเพื่ออำลากันเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อครบทุกคนแล้ว แล้วเจ้าหน้าที่ของวัดก็จะทำการฌาปนกิจศพ ถือเป็นอันเสร็จพิธี

7. การเก็บอัฐิและการลอยอังคาร

ขั้นตอนการจัดงานศพขั้นตอนสุดท้าย คือการเก็บอัฐิและการลอยอังคาร โดยการเก็บอัฐิมักมีขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้นหลังพิธีฌาปนกิจ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำอัฐิมาวางให้เป็นรูปร่างคล้ายคน มีพระภิกษุมาสวดบังสุกุลอัฐิ เสร็จแล้วเจ้าภาพจึงจะนำโกศที่เตรียมไว้มาเก็บอัฐิเพื่อไปบรรจุในเจดีย์ หรือนำไปลอยอังคารในทะเลและแม่น้ำขนาดใหญ่ต่อไป

นี่ก็คือ 7 ขั้นตอนการจัดงานศพแบบครบจบทุกพิธีสำคัญ ซึ่งเราเข้าใจดีว่าช่วงเวลาแห่งความสูญเสีย คือช่วงเวลาที่จิตใจเปราะบางมากที่สุด ที่ Farawell Funeral Services เราจึงมีบริการรับจัดงานศพ บริการจัดดอกไม้งานศพและรับจัดพิธีฌาปนกิจ  โดยทีมงานมากประสบการณ์ให้บริการครบวงจร พร้อมให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ในการจัดงานศพ เพื่อให้ทุกพิธีการดำเนินไปได้อย่างสมเกียรติ ราบรื่น ส่งคนที่รักเป็นครั้งสุดท้ายให้ดีที่สุด รวมถึงยังมีบริการดูแลจิตใจและให้คำปรึกษาหลังจบงาน พร้อมให้บริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 097-496-9595